5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้งปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง การออกแคมป์ปิ้งไปสัมผัสอาการเย็นๆบนยอดเขา ถือเป็นสุดยอดทริปที่ทุกคนใฝ่ฝัน และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเที่ยวดูพระอาทิตย์ขั้น-ตก สัมผัสบรรยากาศบนยอดดอยในช่วงหน้าหนาว แต่ยังรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่มีประสบการณ์ หรือยังงงๆ ว่าจะต้องเตรียมตัวยังไง ต้องแพคของยังไง เรามีคำแนะนำดีๆสำหรับการเตรียมของเฉพาะที่จำเป็นค่ะ
1. กระเป๋าเป้และเสื้อผ้า
สิ่งของหมวดแรกที่ทุกคนต้องเตรียมเวลาจะไปเที่ยวภูเขา คือ กระเป๋าเป้ ควรเลือกเป็นกระเป๋าผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ขนาดกลางขึ้นไป และต้องมีช่องเล็กช่องน้อยไว้ใส่ของได้ครบครัน ที่สำคัญต้องดูที่สายสะพายเป้ด้วยนะ ควรเลือกที่มีแผ่นรองกันช้ำที่บ่า มีเครื่องพยุงหลังเพื่อความสบายในการเดินป่าระยะไกล ส่วนจะสีไหนลวดลายอะไรก็เอาตามความชอบใจได้เลย
ส่วนเสื้อผ้าที่ต้องเตรียม ได้แก่ เสื้อผ้าที่หนาให้ความอบอุ่นได้ดี ถ้าเป็นเสื้อกันหนาวควรมี Hood เพื่อป้องกันน้ำค้าง ชุดนอน ควรเลือกชุดนอนที่อบอุ่น เพราะอากาศในป่าจะเย็นกว่าอากาศทั่วไป โดยเฉพาะบนดอยแล้ว ยิ่งต้องเตรียมเสื้อหนาวสำหรับนอนไปให้พร้อม อาจจะเพิ่มลองจอห์นไปด้วยก็ได้ นอกจากนี้ก็มีถุงมือถุงเท้าหนาๆ เอาไว้ใส่รักษาความอบอุ่นให้ร่างกายตอนกลางคืน และถ้าจะไปเดินป่าช่วงปลายฝนต้นหนาวต้องมีถุงกันทากไปด้วย ถ้าไม่อยากโดนมันดูดเลือดเอา ส่วน รองเท้าเดินป่า ควรเลือกเป็นรองเท้าหุ้มข้อหรือรองเท้าผ้าใบที่ซัพพอร์ตเท้าและสวมใส่สบาย เหล่านี้คือสิ่งของเบื้องต้นที่ต้องเตรียมเป็นอันดับแรก
5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
2. เครื่องนอนและเต็นท์
อย่างที่บอกว่า อุณหภูมิในป่ามักจะต่ำกว่าอุณหภูมิทั่วไป แม้ในฤดูร้อนก็ตามในป่าก็เย็นอยู่เสมอเหมือนมีแอร์คอนดิชันเนอร์ติดไว้ ฉะนั้น หากจะไปเดินป่าแบบกางเต็นท์นอน ควรลงทุนเลือกซื้อเต็นท์และถุงนอนอย่างดี สำหรับเต็นท์ก็ควรเป็นผ้าที่กันน้ำค้างได้ดี มีผ้ามุ้งเย็บติดไว้อีกชั้นเพื่อกันยุงป่า ส่วนถุงนอนต้องเลือกแบบที่มีน้ำหนักเบาและกันหนาวได้ดี ด้านในต้องบุหนาเพื่อรักษาความอบอุ่นให้ร่างกาย
อย่างที่บอกว่า อุณหภูมิในป่ามักจะต่ำกว่าอุณหภูมิทั่วไป แม้ในฤดูร้อนก็ตามในป่าก็เย็นอยู่เสมอเหมือนมีแอร์คอนดิชันเนอร์ติดไว้ ฉะนั้น หากจะไปเดินป่าแบบกางเต็นท์นอน ควรลงทุนเลือกซื้อเต็นท์และถุงนอนอย่างดี สำหรับเต็นท์ก็ควรเป็นผ้าที่กันน้ำค้างได้ดี มีผ้ามุ้งเย็บติดไว้อีกชั้นเพื่อกันยุงป่า ส่วนถุงนอนต้องเลือกแบบที่มีน้ำหนักเบาและกันหนาวได้ดี ด้านในต้องบุหนาเพื่อรักษาความอบอุ่นให้ร่างกาย
3. อุปกรณ์ทำอาหาร
อาหารเป็นปัจจัยสี่ที่จำเป็นของคนเรา และสิ่งจะทำให้ทริปนี้ได้บรรยากาศอบอุ่นก็ คืือ การประกอบอาหาร มีเครื่องดื่มและ(กับแกล้ม)อาหาร บรรยากาศการปาร์ตี้ พูดคุย ช่วยกันทำ ช่วยกันกิน ดูแล้วมีความสุข
อุปกรณ์ทำอาหารในแค้มป์ปัจจุบันนี้ก็ง่ายมาก มีเตาสักตัว หม้อสักชุด อุปกรณ์ทำครัวนิดหน่อย และถังน้ำแข็งใส่อาหารสดและเครื่องดื่มสักอัน คุณก็พร้อมแล้วที่จะเป็นพ่อครัวแม่ครัวกลางป่า
4.อุปกรณ์ให้แสงสว่าง
แสงสว่าในแค้มปิ้งเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องง่ายมากครับ ตะเกียง LED สมัยนี้สว่างมาก ไม่เปลืองพลังงาน ใช้งานได้ทนทาน แต่เช่นเดียวกันค่ะที่มีคุณภาพสักนิดดีกว่าจะไปถึงแค้มป์แล้วพบว่าตะเกียงเปิดไม่ติดต้องอยู่มืดๆทั้งคืน
5. เครื่องปฐมพยาบาล
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือ เครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพราะการแคมป์ปิ้งในป่า อาจเกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงได้ สิ่งของที่ต้องเตรียมไว้ในเครื่องปฐมพยาบาลก็ได้แก่ ยาใส่แผล แอลกอฮอล์ล้างแผล ผ้าพันแผล ยาดม ยาหม่อง ยานวดแก้เคล็ดขัดยอก ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย เทปกาวสำหรับทำแผล สำลี กระดาษทิชชู เป็นต้น และสำหรับใครที่มีโรคประจำตัวหรือต้องกินยารวมถึงวิตามินต่างๆ อยู่เป็นประจำก็อย่าลืมเตรียมติดตัวไปด้วย
10 กฏเหล็กสำหรับนักแค้มปิ้งฝึกหัด
ปฐมพยาบาล เข็มทิศ ไม้ขีดไฟ มีดพก ขนมพลังงานสูงห่อเล็กๆ แผนที่ และน้ำดื่ม ติดตัวทุกครั้ง
5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
การนอนเต็นท์ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งยังออกแนวกึ่งผจญภัยนิด ๆ หลายคนต่างติดอกติดใจกับภาพบรรยากาศธรรมชาติที่อยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้หน้าหนาวเข้ามาทีไร ลานกางเต็นท์ภายในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ มักจะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวอยากเข้าไปจับจอง เพราะนอกจากราคาถูกแล้ว ยังซึมซับบรรยากาศธรรมชาติแบบเต็ม ๆ วันนี้เราเลยจะพาไปดูสถานที่กางเต็นท์อุทยานแห่งชาติกัน มาดูสิว่ามีที่ไหนสวยและน่าสนใจ หน้าหนาวนี้จะได้ไปเที่ยวกัน
จุดกางเต็นท์ยอดนิยม ต้องห้ามพลาด
5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
มีพื้นที่ครอบคลุม 11 อำเภอของ 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก เดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่นานเพียง 3 ชั่วโมง คุณก็ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ นอนดูดาวชิล ๆ และรับลมเย็น ๆ แล้ว แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมนอนกางเต็นท์บริเวณ “จุดกางเต็นท์ลำตะคอง” และ “จุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้” ซึ่งแต่ละจุดบรรยากาศดีแตกต่างไปคนละแบบ จุดกางเต็นท์ลำตะคองจะอยู่ติดริมน้ำลำตะคอง บรรยากาศดี มีห้องน้ำบริการอยู่หลายจุด ส่วนบริเวณจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ หลายแห่ง เช่น น้ำตกผากล้วยไม้ น้ำตกเหวสุวัต จุดชมวิวผาตรอมใจ เป็นต้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ทางอุทยานมีบริการให้เช่าเต็นท์ เต็นท์ขนาด 2 คน ราคา 250 บาท, เต็นท์ขนาด 4-5 คน ราคา 350 บาท (ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอนต่าง ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องแยกเช่าต่างหาก) ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทรศัพท์ 086 092 6529, 086 092 6531, 037 356 033, 044 249 305
2. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย ภายในบริเวณอุทยานมีธารน้ำแร่ และโขดหินธรรมชาติสวยงามแทรกอยู่ พลาดไม่ได้กับการชื่นชมความงามของน้ำตกแจ้ซ้อน ซึ่งธารน้ำตกนี้จะไหลมาบรรจบกับธารน้ำร้อนจากน้ำแร่ กลายเป็นธารน้ำอุ่น ซึ่งทางอุทยานได้สร้างที่อาบน้ำแร่เพื่อบริการแก่นักท่องเที่ยว ยิ่งถ้าช่วงไหนอากาศหนาว ๆ ลองได้เอาตัวไปแช่ ลองคิดดูแล้วกันว่าจะฟินขนาดไหน ขณะเดียวกันภายในอุทยานยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ที่ได้รับการออกแบบอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ จุดกางเต็นท์จะอยู่เลยจากศูนย์อำนวยการขึ้นไปประมาณ 200 เมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์จากทางอุทยาน เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 150 บาท, เต็นท์ขนาด 5 คน ราคา 225 บาท (ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอน ชุดละ 60 บาท ประกอบด้วย ที่รองนอน ถุงนอน และหมอน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเช่าอย่างใดอย่างหนึ่งได้) ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน รอบบริเวณลานกางเต็นท์มีร้านค้าคอยบริการนักท่องเที่ยวไว้ให้พร้อม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร. 093 137 5533, 089 851 3355
3. อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
เดิมชื่ออุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอไชยปราการ อำเภอฝาง และอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ธรรมชาติส่วนใหญ่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวมักเดินทางไปเที่ยวดอยสำคัญต่าง ๆ เช่น ดอยฟ้าห่มปก ดอยปู่หมื่น ดอยแหลม และดอยอ่างขาง เป็นต้น พลาดไม่ได้กับการเก็บเกี่ยวบรรยากาศความสวยงามของทะเลหมอก ณ จุดชมวิวบนดอยฟ้าห่มปก ยอดดอยที่มีความสูงโดดเด่น สำหรับการเดินทางขึ้นยังยังจุดชมวิวดังกล่าว นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถพักแรมได้ที่บริเวณม่อนกิ่วลม ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์ที่ใกล้เชิงดอยมากที่สุด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ส่วนใหญ่มักนิยมพักแรม ณ จุดกางเต็นท์บนม่อนกิ่วลม สำหรับใครที่ไม่ต้องการพิชิตยอดดอย บริเวณนี้ก็ยังสามารถเป็นจุดชมวิวได้ ซึ่งมีทะเลหมอกให้เห็น แต่อาจมีต้นไม้ปกคลุมบ้างอยู่บ้างเล็กน้อย เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 225 บาท ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอน ประกอบด้วยถุงนอนราคา 30 บาท, แผ่นรองนอน 20 บาท, หมอน 10 บาท ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน ทั้งนี้รอบบริเวณลานกางเต็นท์มีร้านค้าไว้ให้บริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก โทร. 053 453 517
4. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
มีพื้นที่ครอบคลุมรอยต่อสองจังหวัด คืออำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ที่นี่ถือเป็นแหล่งกางเต็นท์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะรายล้อมด้วยบรรยากาศป่าสนเขา ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นสุดฟิน จนสามารถพบแม่คะนิ้งได้บ่อย ๆ โดยทำเลที่ตั้งของลานกางเต็นท์ ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับที่ทำการอุทยาน ซึ่งสะดวกสำหรับการดูแลความปลอดภัย การให้บริการด้านข้อมูล และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว มีลักษณะเป็นลานสนามหญ้ากว้างใหญ่ แวดล้อมไปด้วยทิวสนสามใบ
แม้ว่าจุดลานกางเต็นท์จะไม่ใช่จุดชมวิว แต่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่ลานหินแตกที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ หรือห่างไปอีกนิดไปชมพระอาทิตย์ตกที่ลานหินปุ่มหรือผาชูธงก็สวยงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะหน้าหนาว ซึ่งมีหมอกมากมายตรงบริเวณนี้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ สามารถเช่าเต็นท์จากทางอุทยาน เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 225 บาท ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอนชุดละ 60 บาท ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน และรอบบริเวณลานกางเต็นท์มีร้านค้าและร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวพร้อมสรรพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร. 081 596 5977
5. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอวังทอง อำเภอนครไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอเขาค้อ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ รู้จักกันดีในนาม “ทุ่งสะวันนาแห่งเมืองไทย” ด้วยเพราะมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด จึงเหมาะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปอยู่ไม่น้อย สถานที่ที่น่าสนใจภายในอุทยาน ได้แก่ “ทุ่งแสลงหลวง” ทุ่งหญ้าแบบสะวันนา มีพื้นที่เป็นที่โล่งกว้างใหญ่ “ทุ่งนางพญา” ทุ่งหญ้าแห่งนี้จะมี ความสวยงามเหมาะแก่การนั่งรถชมวิวและตั้งค่ายพักแรม รวมถึง “ขี่จักรยานชมทุ่งหญ้าสะวันนา” ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานชมธรรมชาติ โดยเส้นทางจะเป็นทางวิบาก ขรุขระ หรืออาจจะปั่นชมธรรมชาติในบริเวณอุทยานก็ยังได้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ส่วนใหญ่มักกางเต็นท์บริเวณทุ่งนางพญาหรือไม่ก็ตรงบริเวณแก่งน้ำในอุทยาน ซึ่งเหมาะกับการพักผ่อนชิล ๆ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติภายในอุทยานให้ได้เที่ยวชม โดยเต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 225 บาท/คืน (ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอนราคา 60 บาท) ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์มาเองคิดราคา 30 บาท/คน/คืน มีร้านค้าไว้คอยให้บริการ แต่ถ้าจะสะดวกที่สุด นักท่องเที่ยวควรเตรียมเสบียงอาหารขึ้นมาด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทร. 055 268 01
6. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ อุทยานแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของนักเดินทางที่อยากมาสัมผัสรับลมหนาว เพราะมีอากาศเย็นเกือบตลอดทั้งปี และมีจุดชมวิวสวย ๆ มากมาย เช่น จุดชมทิวทัศน์ถ้ำผาหงษ์ จุดชมทิวทัศน์ภูค้อ ป่าเปลี่ยนสี ผาล้อมผากอง สวนสนบ้านแปก เป็นต้น รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติสวย ๆ หลากหลายเส้นทาง ไว้เอาใจนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า ให้ได้ชมธรรมชาติอย่างทั่วถึง หากแต่ก่อนการเดินศึกษาธรรมชาติต้องแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานให้ทราบก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ โดยจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวจะอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จัดบริเวณเป็นลานกางเต็นท์ขนาดใหญ่ 4 ลาน พร้อมห้องน้ำอำนวยความสะดวก แวดล้อมไปด้วยป่าเขา ทำให้สัมผัสอากาศอันหนาวเย็นฉ่ำปอดกันได้อย่างเต็มที่ และสามารถตื่นเช้าชมวิวทะเลหมอกจากจุดชมวิวภูค้อ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์ประมาณ 5 กิโลเมตร เต็นท์ขนาด 2 คน ราคา 250 บาท พร้อมอุปกรณ์เครื่องนอน ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน และมีร้านค้าสวัสดิการและร้านอาหาร ให้บริการสำหรับท่านที่ไม่ได้เตรียมมาด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว โทร. 081 962 6236 5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
7. อุทยานแห่งชาติแม่เมย
มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่ตำบลแม่ต้านและตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามและความอลังการของทะเลหมอก โดยจุดชมทะเลหมอกมีอยู่ด้วยกันหลายจุด ได้แก่ “จุดชมทะเลหมอกหลังที่ทำการอุทยาน” เป็นจุดที่ชมทะเลหมอกได้กว้างไกลและชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก “ม่อนครูบาใส” และ “ม่อนพูนสุดา” สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าและพระอาทิตย์ตกดิน และ “ม่อนกิ่วลม” เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดเพื่อดูพระอาทิตย์ยามเช้าเหนือทะเลหมอก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสวย ๆ หรือจะเป็นที่เที่ยวน้ำตกอย่าง “น้ำตกแม่ระเมิง” “น้ำตกชาวดอย” “น้ำตกแม่สลิดน้อย” และ “ถ้ำอุสุ” ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเที่ยวได้ตามใจชอบ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ส่วนใหญ่นิยมกางเต็นท์ตรงบริเวณม่อนกิ่วลม ซึ่งเป็นจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ตรงบริเวณนี้จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ นักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ ไปเอง เต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 225 บาท ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอนราคาชุดละ 30 บาท ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่เมย โทร. 088 290 7964, 081 785 3433
5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
8. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะอากาศหนาวเย็น สถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว คือ จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง อยู่ตรงบริเวณที่ทำการอุทยาน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก สามารถมองเห็นดอยเชียงดาว และชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ ภายในพื้นที่อุทยานเองยังมีลานกางเต็นท์อยู่ด้วยกันหลายจุด ได้แก่ ลานสนดอย ลานสายหมอก ลานลมหนาว ลานลมดอย และลานชมวิว แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมนอนที่ลานสนดอย เพราะใกล้ลานจอดรถ ใกล้ห้องน้ำ และใกล้จุดชมทะเลหมอก 5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ โดยเช่าเต็นท์ขนาด 3-4 คน ราคา 225 บาท ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอน ประกอบด้วย หมอน 10 บาท, ผ้าห่ม 50 บาท, ผ้าปูรองนอน 20 บาท และถุงนอน 30 บาท ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร. 053 248 491, 084 908 1531 5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
9. อุทยานแห่งชาติผาแดง
ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง และอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ไฮไลท์ของการเที่ยวอุทยานแห่งนี้ ได้แก่ ชมต้นกำเนิดแม่น้ำปิง ชาวบ้านเชื่อว่าต้นน้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สดชื่นกับน้ำตกศรีสังวาลย์ แช่น้ำแร่ธรรมชาติที่บ่อน้ำร้อนโป่งอ่าง ท่ามกลางความร่มรื่นกลางป่าเขาลำเนาไพร หรือจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้แก่ ถ้ำผาชัน ถ้ำดอยกลางเมือง น้ำตกทุ่งแก้ว น้ำตกห้วยหก ออบปิง ถ้ำผาชัน ถ้ำห้วยจะค่าน และถ้ำดอยกลางเมือง เป็นต้น
5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง5 อุปกรณ์จำเป็นในการแค้มปิ้ง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนเต็นท์ ส่วนใหญ่มักนอนพักแรมบน “ดอยค้ำฟ้า” โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่จะได้ชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นและชมทะเลหมอกยามเช้า สามารถเช่าเต็นท์ขนาด 3 คน ราคา 225 บาท ไม่รวมอุปกรณ์เครื่องนอน ประกอบด้วย หมอน 10 บาท, ผ้าห่ม 50 บาท, ผ้าปูรองนอน 20 บาท และถุงนอน 30 บาท ถ้านักท่องเที่ยวเอาเต็นท์ไปเองเสียค่าเช่าพื้นที่ราคา 30 บาท/คน/คืน และหากไม่ได้จัดเตรียมอาหารมาเอง ที่นี่ก็มีร้านค้าสวัสดิการขายอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติผาแดง โทร. 053 046 370
ที่มา :kapook.com