เครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดี
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดี ด้วยความที่ประเทศของเราเป็นเมืองร้อน ถึงร้อนที่สุด เครื่องดื่มปั่นเย็นๆ ชื่นใจ จึงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นน้ำปั่นผลไม้แบบดั้งเดิมที่เราคุ้นเคยดี เช่น มะนาวปั่น แตงโมปั่น หรือนมปั่น ไปจนถึงเครื่องดื่มปั่นสมัยใหม่ เช่น เฟรปเป้ หรือสมูธตี้ ที่เป็นที่รู้จักกันในไม่กี่ปีที่ผ่านมาและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดีความแตกต่างของน้ำปั่นแบบดั้งเดิมกับสมูธตี้ที่เห็นได้ชัดคือ ความข้นหนืดและเนื้อสัมผัสของสมูธตี้ที่มากกว่าน้ำปั่น ซึ่งเกิดจากการใส่ส่วนผสมที่เป็นเนื้อผลไม้ทั้งสดหรือแช่แข็งลงไปด้วย และต้องปั่นในเครื่องปั่นระดับมืออาชีพ ที่มีกำลังและความเร็วสูง ส่วนน้ำปั่นแบบดั้งเดิมมีแต่ของเหลว ได้แก่ น้ำผลไม้กับน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง หรือมีผลไม้เนื้ออ่อนอย่างแตงโม แคนตาลูป สามารถใช้เครื่องปั่นแบบใช้ในบ้านที่มีวางขายทั่วไป ซึ่งมอเตอร์มีขนาดเล็กประมาณ 1/2-3/4 แรงม้า ก็พอได้ หากต้องการปั่นสมูธตี้หรือเฟรปเป้ ควรมีกำลังเครื่องมากกว่า 1 แรงม้าขึ้นไป (1 แรงม้าเทียบเท่า 746 วัตต์) แต่กระนั้นก็ตามยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกำลังวัตต์ของเครื่อง ซึ่งหลายๆ คนยังสับสน และคิดว่าเป็นคำตอบสุดท้ายที่จะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของเครื่องปั่น
การเลือกซื้อเครื่องปั่น
เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดีในการเลือกซื้อเครื่องปั่นเราควรต้องพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ใช่แค่กำลังวัตต์เท่านั้น เครื่องปั่นคุณภาพต่ำหลายยี่ห้อ ผลิตจากจีนแดง ระบุกำลังวัตต์สูงถึง 1,500 วัตต์ แต่ราคาถูกแสนถูกอย่างเหลือเชื่อ แต่เมื่อนำมาปั่นเครื่องดื่มกลับไม่ละเอียด สู้เครื่องปั่นต้นตำรับจากอเมริกา ซึ่งมีกำลังวัตต์เพียงแค่ 850 วัตต์ ไม่ได้ จากตัวอย่างนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังวัตต์ที่แสดงในป้ายเครื่อง (เนมเพลท) เป็นเสมือนภาพลวงตาทำให้เราเข้าใจผิดได้เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
ผู้เขียนจะอธิบายประเด็นนี้ให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น โดยการเปรียบเทียบกับหลอดตะเกียบประหยัดไฟกับหลอดไส้แบบดั้งเดิม หลอดตะเกียบประหยัดไฟกินไฟแค่ 15-18 วัตต์เท่านั้น แต่กลับให้ความสว่างเทียบเท่าหรือมากกว่าหลอดไส้แบบดั้งเดิมที่กินไฟสูงถึง 60-80 วัตต์ เห็นได้ชัดเลยว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่มีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพได้ โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากหรือกินไฟเหมือนแต่ก่อน ซึ่งเทคโนโลยีของเครื่องปั่นก็เช่นเดียวกัน
เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อเครื่องปั่นสมูธตี้
ในการจะเลือกซื้อหาเครื่องปั่นเบลนเดอร์ดีๆ สักตัว ให้ใช้งานได้ตรงกับความต้องการและอยู่เป็นเครื่องมือทำมาหากินได้นานๆ ไม่จุกจิกให้ปวดหัว เราจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบมากๆ ด้วยความที่เครื่องปั่นที่มีให้เลือกในท้องตลาดมีมากมายเหลือเกิน ซึ่งผู้เขียน แบ่งกลุ่มประเภทเครื่องปั่นออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือเครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
1. เครื่องปั่นแบบไลท์ดิวตี้หรือแบบใช้ในบ้าน เหมาะกับการใช้งานไม่หนัก ปั่นเครื่องดื่มที่มีความข้นหนืดสูงๆ หรือมีเนื้อของแข็งผสมมากไม่ได้ เพราะมอเตอร์มีขนาดเล็ก ประมาณ 1/2-3/4 แรงม้า (ประมาณ 400-600 วัตต์) ราคาไม่แพง หลักร้อยถึงหลักพันต้นๆ เท่านั้น ควรใช้ในครัวเรือนเป็นหลัก หากนำมาใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน อาจจะพังได้ง่าย เพราะมอเตอร์จะร้อนเร็วและไหม้ได้ง่าย ชิ้นส่วนอื่นๆ ก็ไม่ค่อยแข็งแรงทนทาน ออกแบบมาให้ใช้งานในบ้านเป็นหลักซึ่งใช้ไม่เกิน 2-3 ครั้ง ต่อวัน อีกทั้งอาจจะพ้นจากการรับประกันสินค้า หากนำไปใช้เชิงพาณิชย์ ดังนั้น ควรอ่านเงื่อนไขการรับประกันให้ดีว่ามีระบุไว้หรือไม่
2. เครื่องปั่นประสิทธิภาพสูงแบบเฮฟวีดิวตี้ เป็นเครื่องที่ออกแบบมาให้มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะกับงานหนัก หรือต้องใช้บ่อยๆ มากกว่า 20 ครั้ง ต่อวัน เครื่องมักจะมีขนาดใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะมอเตอร์มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานเชิงพาณิชย์ เป็นเครื่องมือทำมาหากินได้อย่างสบาย เครื่องปั่นแบบนี้ยังมีแยกย่อยออกเป็นเครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
– แบบแมนวลปรับความเร็ว 2 ระดับ (2 speed) เหมาะกับปั่นเครื่องดื่มเป็นหลัก
– แบบปรับความเร็วได้หลายระดับ สามารถใช้งานอเนกประสงค์ ปั่นอาหาร ของแห้ง เครื่องแกง ได้
– แบบโปรแกรมตั้งเวลาอัตโนมัติ
เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
หลักคิดในการเลือกซื้อหาเครื่องปั่นน้ำผลไม้
เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
ด้วยความหลากหลายเช่นนี้ จึงขอมอบหลักคิดในการเลือกซื้อหาดังต่อไปนี้
1. ลักษณะการใช้งาน เราต้องรู้ให้แน่ชัดเสียก่อนว่าเราจะเอาเครื่องปั่นไปทำอะไร เช่น ใช้งานในครัวเรือน หรือเอาไปเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ปั่นเครื่องดื่มอย่างเดียวหรือใช้ปั่นอเนกประสงค์ เผื่อว่าไปปั่นอย่างอื่น เช่น อาหาร เครื่องแกง หากปั่นเครื่องดื่มอย่างเดียว ใช้เครื่องแบบ 2 สปีดก็เพียงพอ ใช้ง่าย จ่ายเงินน้อยกว่า หรือหากเปิดร้านแต่ไม่ได้ยืนขายเอง เปลี่ยนลูกน้องบ่อย ควรใช้แบบโปรแกรมอัตโนมัติ กดปุ่มเดียวเสร็จ ไม่ว่าจะใครปั่นก็ได้เครื่องดื่มคุณภาพเดียวกัน เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
2. แรงม้าและความเร็วรอบของมอเตอร์ ถือได้ว่าเป็นหัวใจของเครื่องปั่นเลยทีเดียว หากไปทำมาค้าขายควรใช้เครื่องที่มีกำลังสูงกว่า 1 แรงม้าขึ้นไป ยิ่งแรงม้ายิ่งสูงยิ่งดี เพราะสามารถปั่นบดละเอียดได้อย่างรวดเร็ว เครื่องดื่มจะมีความข้นหนืด ไม่เหลวไม่แยกชั้น ดูดีมีราคากว่าน้ำปั่นทั่วไป ส่วนกำลังวัตต์ที่ระบุอยู่ที่เครื่องอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นตัวบ่งบอกความแรงของเครื่อง แท้ที่จริงแล้ว หมายถึงอัตราการใช้พลังงานหรือการกินไฟฟ้า ส่วนด้านขาออก หรือผลผลิตที่มอเตอร์จะให้กำลังออกมาจะวัดเป็นหน่วยแรงม้า (HP) ยกตัวอย่างเช่น เครื่องปั่นระดับมืออาชีพราคาแพงๆ ตัวละหลายหมื่นบาท นำเข้าจากอเมริกาแบบที่ร้านกาแฟใหญ่เขาใช้กัน ระบุในป้ายติดเครื่องว่า 850 วัตต์ แต่ให้กำลังสูงถึง 2 แรงม้า หรือระบุว่า 1,500 วัตต์ แต่ให้กำลังสูงถึง 3.5 แรงม้า เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีมอเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมากทำให้กินไฟน้อยลงแต่ให้แรงม้ามากขึ้น อย่างที่ได้ยกตัวอย่างหลอดประหยัดไฟ ยิ่งวัตต์สูงขึ้นก็กินไฟมากขึ้น เครื่องก็ร้อนเร็ว หากไม่มีระบบระบายความร้อนที่ดีพอ มอเตอร์อาจไหม้ได้ง่าย ยิ่งมอเตอร์ร้อนบ่อยๆ จะทำให้อายุการใช้งานหดสั้นลง ส่วนเรื่องความเร็วรอบ ยิ่งเร็วยิ่งดี ซึ่งเครื่องระดับมืออาชีพส่วนใหญ่จะมีความเร็วรอบมากกว่า 30,000 รอบ ต่อนาที
3. ขนาดของโถปั่นและวัสดุ โถปั่นแบบเก่าๆ มักทำจากแก้ว เพราะราคาถูก แต่ค่อนข้างหนักและแตกง่าย แต่มีข้อดีคือไม่ดูดซับกลิ่นอาหาร ส่วนโถปั่นสมัยใหม่โดยเฉพาะประเภทมืออาชีพ ล้วนทำจากพลาสติคชนิดโพลีคาร์บอเนต ที่มีความทนทานสูงไม่แตกง่าย ด้วยความเร็วของมอเตอร์ที่สูงมาก หากมีส่วนผสมที่เป็นของแข็งมาก ถ้าเป็นโถแก้วอาจแตกได้ อย่างไรก็ตาม โถพลาสติคโพลีคาร์บอเนตบางเกรด อาจมีสารปนเปื้อนที่เรียกว่า ไบฟีนอล เอ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งเคยพบในอาหารที่ผ่านการปรุงด้วยไมโครเวฟในภาชนะพลาสติคเป็นเวลานาน ดังนั้น ควรเลือกใช้ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสารปนเปื้อนจะดีที่สุด หากใช้โถปั่นโพลีคาร์บอเนตควรแยกโถปั่นระหว่างเครื่องดื่มกับอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น เครื่องเทศ เครื่องแกง เพราะกลิ่นจะติดโถได้ง่าย
ในการปั่นแต่ละครั้งควรใส่ส่วนผสมไม่เกิน 1/2 ของความจุโถปั่น ยิ่งเครื่องมีกำลังต่ำๆ ยิ่งต้องใส่ส่วนผสมให้น้อยลงไปอีก มิฉะนั้น จะไม่มีแรงดูดเข้าหาใบมีด เครื่องปั่นระดับมืออาชีพมักมีความจุ ประมาณ 1.5-2 ลิตร สามารถปั่นได้ครั้งละ 1 ลิตร หรือ 1 กิโลกรัม ส่วนเครื่องปั่นแบบไลต์ดิวตี้มักมีความจุไม่เกิน 1 ลิตร หรือ 32 ออนซ์
เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
4. อุปกรณ์ประกอบอื่นๆ มีผู้อ่านและลูกศิษย์ผู้เขียนมักถามบ่อยๆ ว่า อุปกรณ์เสริมที่ได้มากับเครื่องปั่นบางอย่างใช้ทำอะไร ยกตัวอย่างเช่น แท่งกวนพลาสติคที่มากับเครื่องปั่นบางรุ่น ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนพบว่า จะใช้หรือไม่ใช้ก็ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก หากเราใส่ส่วนผสมที่เหมาะสม คือเวลาปั่นแล้วส่วนผสมมีการไหลเวียนได้จากแรงดูดที่เรียกว่า วอร์เท็กซ์ (Vortex) จากการหมุนของใบมีด การใช้แท่งกวนพลาสติคก็ไม่มีความจำเป็น แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะใช้กวนกันยกใหญ่ อาจจะเป็นความรู้สึกตามหลักจิตวิทยาว่าใช้แล้วจะปั่นได้ละเอียดยิ่งขึ้น ก็ไม่ผิดอะไรหรอกครับได้ออกกำลังแขนไปด้วย อีกอย่างที่เคยเห็นคือโถปั่นแบบมีไส้กรองแบบทำน้ำเต้าหู้ได้ อันนี้ก็ไม่มีความจำเป็นเลยถ้าเราไม่ได้ขายน้ำเต้าหู้ ก็คงไม่ได้ใช้เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
5. ความน่าเชื่อถือของผู้ขายและการบริการหลังการขาย ผู้เขียนจะให้ความสำคัญกับปัจจัยนี้มากที่สุด เพราะว่าเครื่องปั่นไม่ว่าจะยี่ห้อไหน แพงแค่ไหน มีโอกาสชำรุดได้ตลอด ด้วยการหมุนที่ความเร็วรอบสูง หรือเกิดจากความพลั้งเผลอของผู้ใช้งาน เช่น ลืมช้อนเหล็กในโถทำให้ต้องปั่นเหล็กไปด้วย หรือมีน้ำเข้าเครื่องเป็นต้น ดังนั้น การบริการหลังการขายต้องมีความเชื่อถือได้ ขายแล้วไม่ทอดทิ้งกัน เครื่องปั่นยี่ห้อไหนดี
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วราคาของเครื่องก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด แต่ไม่จำเป็นต้องราคาต่ำที่สุด แต่ต้องมีความเหมาะสมคุ้มค่าเงิน และเหมาะสมกับการใช้งาน มีความทนทานและมีการรับประกันสินค้าบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ ประหยัดพลังงานลดโลกร้อน ราคาไม่จำเป็นต้องแพงเป็นหลักหมื่นหลักแสน ก็สามารถหาเครื่องปั่นดีๆ ได้
ที่มา : matichon.co.th
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดี
5 อันดับเครื่องปั่นน้ำผลไม้ยอดฮิต ขายดี บนเว็บไซต์ซื้อขายออนไลน์ ปี 2021
จากข้อมูลเว็บไซต์ ลาซาด้า เว็บไซต์ e-commerce อันดับหนึ่งของเมืองไทย มีสินค้ามากมายหลายชนิดให้เลือกซื้อ สินค้ามีคุณภาพ มีการรับประกันสินค้า ส่งเร็ว เก็บเงินปลายทาง ซึ่งเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ก็เป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่ขายดี อยู่ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยเราได้รวบรวมข้อมูลเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ที่มียอดขายสูง ขายดี ระดับ 5 ดาว จากการให้คะแนนของผู้ใช้ 5 อันดับด้งนี้
อันดับ 5 Philips เครื่องปั่นน้ำผลไม้ รุ่น HR2051 1.25 ลิตร
โถพลาสติกที่ทนต่อการกระแทกสูง จุได้เยอะ
Philips เครื่องปั่นน้ำผลไม้ รุ่น HR2051 1.25 ลิตร เครื่องปั่นน้ำผลไม้รุ่นนี้ ถูกพัฒนาและออกแบบมาเป็นอย่างดีจึงมีคุณสมบัติต้านทานการแตกด้วยการออกแบบโถพลาสติกที่ทนต่อการกระแทกสูง ทรงพลังด้วยมอเตอร์ 350 วัตต์สามารถปั่นผลไม้ให้เป็นเนื้อละเอียดรวมถึงวัตถุดิบต่างๆที่จำเป็นสำหรับงานครัว ใช้งานง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บด้วยระบบการเก็บสายไฟอยู่ใต้ตัวเครื่องโถปั่น นอกจากนี้ทำความสะอาดง่าย จึงไม่ต้องกังวลเปลืองแรงขัด ด้วยขนาดบรรจุอยู่ที่ 1.25 ลิตร พร้อมกำลังไฟ 350 วัตต์ พร้อมใบมีดสแตนเลสสตีล 4 แฉกที่มีความคมกริบ ให้คุณได้ปั่นทั้งผักและผลไม้อย่างเพลิดเพลิน
อันดับ 4 Panasonic เครื่องปั่นน้ำผลไม้พร้อมดื่มพานาโซนิค (Personal blender) รุ่น MX-GM0501WSN
2 in 1 ปั่นและดื่มในแก้วเดียว
เครื่องปั่นน้ำผลไม้พร้อมดื่ม (Personal blender) รุ่น MX-GM0501WSNเครื่องปั่นน้ำผลไม้ และเครื่อมดื่มต่างๆ พร้อมแก้วปั่นขนาดกระทัดรัดให้ความสะดวก ด้วยแก้วปั่นที่เมื่อปิดฝาก็พร้อมดื่มได้ทันทีหลังจากปั่นเครื่องดื่มเสร็จแล้ว แก้วปั่นพร้อมดื่มในทุกสถานที่ที่ต้องการ เช่น ในรถ ที่ทำงาน สปอร์ตคลับ หรือพกพาไปปิกนิก ใช้เวลาปั่นเพียงแค่ ครึ่ง- 1 นาที ก็ได้เครื่อมดื่มเมนูสไตล์ส่วนตัวของคุณอย่างรวดเร็วทันใจ แก้วปั่นผลิตจากพลาสติกปลอดสารก่อมะเร็ง (BPA) ให้คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัยต่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดี 2018
อันดับ 3 JOWSUA เครื่องปั่นน้ำผลไม้เอนกประสงค์ Double Cup Juice ฟรีแก้วปั่น 1 ใบ
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย พกพาสะดวก ทนทาน
JOWSUA เครื่องปั่นน้ำผลไม้เอนกประสงค์ Double Cup Juice หมดยุดสมัยที่มีเครื่องปั่นเก่าใหญ่ขนาดเทอะทะไปแล้วค่ะ ยุคสมัยแบบนี้ใครๆก็ต้องการความสะดวกสะบายง่ายๆรวดเร็ว และด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำเครื่องปั่น Double cup juice ที่มาพร้อมคุณสมบัติคือ ด้วยตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัด และที่สำคัญเราสามารถถอดเอาโถปั่นมาเป็นแก้วพกพาไปข้างนอกได้อีกด้วย ใบมีด4 ใบพัด มีความคมมาก ทำให้ในการปั่นนั้นใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็ได้ทานน้ำผลไม้ที่แสนอร่อยของคุณได้แล้ว และนอกจากนั้นตัวฐานยังมีตัวล๊อคกับพื้นเพื่อไม่ให้เคลื่อนย้ายในขณะเครื่องกำลังทำงาน สายไฟยาวถึง 1.2 เมตร ตัวโถปั่นทำด้วยพลาสติก PP คุณภาพสูงที่ทนทานต่อการใช้งาน
อันดับ 2 stärker เครื่องปั่นน้ำผลไม้สมูทตี้ ขนาด 800 ML รุ่น ST111
โถปั่นแบบพิเศษพกพาสะดวก 2 ชิ้น พร้อมดื่มได้ทันที
stärker เครื่องปั่นน้ำผลไม้สมูทตี้ 800 ML รุ่น ST111 (สีขาว) เครื่องปั่นน้ำสมูทตี้ดีไซน์ทันสมัย โถปั่นออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้คุณพกพาได้สะดวก และพร้อมดื่มทันที ด้วยความจุโถ 800 ml. เหมาะสำหรับการปั่นผลไม้ ทำเครื่องดื่ม อาหาร หรือเมนูอื่นๆ ด้วยกำลังไฟ 300 วัตต์ มาพร้อมฟังก์ชั่นปุ่มกดปั่นชั่วขณะ สำหรับหยุดชั่วคราวแล้วค่อยปั่นต่ออีกครั้ง ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับ การทำอาหารหรือเครื่องดื่มแบบไม่ต้องเสียเวลานานๆ อีกต่อไป
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดี 2018
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ยี่ห้อไหนดี
อันดับ 1 เครื่องปั่นน้ำผลไม้ Shake ‘n Take NEW 2018 เครื่องปั่นสมูทตี้ แบบพกพา
สามารถชาร์ทไฟแบบ USBได้ ง่ายและพกพาสะดวก
เครื่องปั่นน้ำผลไม้ สมูทตี้ พกพาสะดวก กระติกน้ำ แก้วน้ำ ระบบ USB เครื่องปั่นน้ำผลไม้ สมูทตี้ ดัวครื่องสามารถปั่นได้ในเวลาที่รวดเร็ว มีขนาดพกพาได้ง่ายสำหรับคนใส่ใจสุขภาพและรักการออกกำลังกาย พร้อมมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง ปั่นได้รวดเร็วทันใจ อิ่มอร่อยได้สารอาหารที่ร่างกายต้องการอย่างครบถ้วน
เ
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ กับการเลือกซื้้อเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ลองเข้าไปอ่านคอมเม้นท์ในสินค้า กับการให้คะแนนของลูกค้า บวกกับงบประมาณที่มี ก็คงจะมีคำตอบอยู่กันแล้ว สำหรับคนรักสุขภาพ อากาศร้อนๆแบบบ้านเรานี้ มีเครื่องปั่นน้ำผลไม้ติดตัวไว้ ติดรถไว้ ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวค่ะ